‘โอม บอดี้สแลม’ โต้หลังชาวเน็ตรุมจวกโครงการ ‘ก้าวเพื่อน้อง’ ของ ‘พี่ตูน’

‘โอม บอดี้สแลม’ โต้หลังชาวเน็ตรุมจวกโครงการ ‘ก้าวเพื่อน้อง’ ของ ‘พี่ตูน’

โอม บอดี้สแลม ออกโรงโต้ชาวเน็ตที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์โครงการ ‘ก้าวเพื่อน้อง’ ของ ตูน บอดี้สแลม ชี้มีคนรอดตายและเด็กได้เรียนจบมาแล้ว โอม เปล่งขำ หรือ โอม บอดี้สแลม มือคียบอร์ดของวงได้ออกมาโต้ตอบผ่านเฟซบุ๊กกรณีที่ ตูน บอดี้สแลม ได้เตรียมวิ่งภายใต้โครงการ “ก้าวเพื่อน้อง ปีที่ 2” โครงการวิ่งหาทุนการศึกษา หาทุนให้นักเรียน 109 คนที่จบ ม.3 แต่ไม่มีทุนเรียนต่อ โดยจะวิ่ง 109 กม.

ซึ่งโครงการดังกล่าวได้กลายเป็นที่ถูกพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก 

จนนำไปสู่กระแส #พี่ตูนวิ่งทำไม และมีคนดังในวงการบันเทิงและวงการการเมืองแสดงความเห็นถึงในประเด็นนี้ โดย โอม ระบุว่า “ในขณะที่สังคมมานั่งถกเถียงกันว่า มันเป็นหน้าที่ของรัฐ,การบริจาคไม่ช่วยแก้ปัญหาอะไร,ทำไมถึงไม่ออกมาเป็นกระบอกเสียง..บลาๆ โน่นครับ มีคนกำลังจะตายเพราะขาดเครื่องมือแพทย์ที่มีไม่เพียงพอ..มีเด็กมากมายที่อยากเรียนหนังสือต่อแต่ไม่มีทุนทรัพย์

การวิ่งที่ผ่านมาแก้ปัญหาได้หรือไม่ได้ไม่รู้ แต่มันมีคนรอดตายจากเครื่องมือแพทย์ที่เขาหาให้ได้จริง ซึ่ง 1 ในนั้นอาจเป็นคนใกล้ชิดของคนที่ด่าเขาในขณะนี้ มีคนหายป่วยจากเครื่องมือแพทย์จากมูลนิธิ มีเด็กๆได้เรียนหนังสือจนจบ ม.6 อีกร้อยกว่าคน และเท่าที่ผ่านมาเขาก็ออกมาเป็น กระบอกเสียงส่งไปถึงทุกคนแล้ว “ในแบบของเขาเอง” โดยผ่านการวิ่งของตัวเอง ไม่งั้นทุกคนจะตระหนักได้หรือว่าการเรี่ยไรบริจาคมันไม่ใช่การแก้ปัญหาแบบยั่งยืน

ที่จะไม่เห็นด้วยหรือไม่ชอบ ผมว่าไม่ใช่ปัญหาเลยถ้าทุกคนตัดสินมันจากหลักการและเหตุผลและข้อมูล”ความเป็นจริง” ที่วินิจฉัยแล้วอย่างถี่ถ้วนไม่ใช่การเอาอคติและอัตตาเป็นที่ตั้ง หรือเพียงเพราะเขาไม่ทำในสิ่งที่หลายๆคนอยากให้ทำ ปัญหาที่เห็นคือปัญหาโครงสร้างเชิงนโยบายที่มัน “ไม่สามารถแก้ได้โดยคนๆเดียว”และไม่สามารถแก้ได้ด้วยเวลาวันสองวันครับ

วันนึง เราอาจจะได้ใช้เครื่องมือแพทย์ที่มูลนิธิหามาให้อันเกิดจากเงินที่พวกเราร่วมใจกันบริจาค วันนึงเราอาจจะได้แพทย์,ทนายความมือดี,ตำรวจ ฯลฯ จากทุนการศึกษาที่มูลนิธิมอบให้ก็ได้นะครับ”

ผมได้นอนอ่านหนังสือในช่วง ‘หน้าหนาวเดือนเมษา’ ที่ผ่านมา ได้ดู ep สุดท้ายของ crash landing เป็นครั้งที่ 23 (โดยประมาณ 555!!) และเริ่มดู 25/21 กับภรรยา (สนุกมากครับ อาการหมั่นไส้พระเอกตอนดูเขาใน startup หมดไปอย่างสิ้นเชิง)

จนคืนนี้ถึงได้รู้สึกอึดอัดเป็นครั้งแรกที่ออกไปไหนไม่ได้ เพราะทีมงานไลน์มาบอกว่าหัวหน้าฮันจีพยอง หรือ ‘หัวหน้าฮง’ แห่ง Hometown Cha Cha Cha คิมซอนโฮ ได้เดินเข้าไปทานข้าวร้านที่ทีมนั่งทานกันอยู่ในย่านสุขุมวิท เราเลยอดไปเจอ

ส่อง คำขวัญวันเด็ก แต่งโดย ‘ประยุทธ์’ ตลอดช่วง 7 ปีที่ผ่านมา

ส่อง คำขวัญวันเด็ก ตั้งแต่ปี 58 ถึง 65 ที่ถูกแต่งโดย พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดช่วงปี 7 ที่ผ่านมา แสดงเห็นถึงแนวคิดที่ต่างไปในแต่ละยุค หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมได้แต่งคำขวัญในปี 2565 ซึ่งระบุว่า “รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคม”

โดยคำขวัญในปีนี้เป็นการมุ่งเน้นเพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะชีวิต รู้จักคิด รู้จักเหตุผล วิเคราะห์อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงให้รับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งตรงสมัยกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องมานานสองปี

ซึ่งทางทีมข่าว TheThaiger ก็อยากจะย้อนชมคำขวัญวันเด็กของ พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดช่วง 7 ปีที่ผ่่านมา ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี

ปี 2558 – “ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต” โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อธิบายว่า มุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนได้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตนเอง นอกจากความรู้ที่ได้บ่มเพาะจากครอบครัวและโรงเรียนแล้ว ควรได้รับการปลูกฝังให้ตระหนักถึงหน้าที่ของตน หมั่นศึกษาเล่าเรียน เพื่อพัฒนาตนเองให้มีความรู้ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความใฝ่รู้ ใฝ่ดี ตลอดจนมีจิตสาธารณะ รู้จักการทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม คำนึงถึงประเทศชาติ โดยมีคุณธรรมนำจิตใจ

ปี 2559 – “เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้ สู่อนาคต” โดยความหมายของปี 59 นั้น ยังมีคล้ายคลึงกับปี 58 ที่ยังให้ความสำคัญเรื่องอนาคต ซึ่งนายกฯ นิยามคำว่า “เด็กดี” ไว้ว่า “คิดดี พูดดี มีจิตใจดี มีความมั่นเพียร และไม่ย่อท้อในการเรียนรู้วิชาการแขนงต่าง ๆ

ปี 2560 – “เด็กไทย ใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง” เป็นปีแรกที่ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องอนาคต และมุ่งเน้นในการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และมีความจงรักภักดีในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมเติบโตเป็นคนดีที่ทำให้ประเทศก้าวหน้า

ปี 2561 – “รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี” ปีนี้เป็นปีแรกที่รัฐบาลไทยได้เริ่มชูนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งว่าด้วยการใช้เทคโนโลยีในควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ และจะเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตในช่วงทตศรวรรษที่ 21 ซึ่งนายกฯ ได้เน้นย้ำให้เด็กๆปรับตัวทันโลกและเทคโนโลยี

ปี 2562 – “เด็ก เยาวชน จิตอาสา ร่วมพัฒนาชาติ” โดยคำขวัญในปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการให้เด็กรุ่นใหม่ น้อมนำแนวทางจิตอาสาพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาสืบสานต่อยอดพระราชปณิธานของพระองค์ในการเป็นผู้ให้ มีจิตใจโอบอ้อมอารี และอุทิศตนเพื่อส่วนรวม รวมทั้งตระหนักในบทบาทหน้าที่ของตนเองด้วยใจที่รักและยึดมั่นต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป