ยายขายมอเตอร์ไซค์ หลานสาว 1 พัน คนรับซื้อใจดี คืนรถแล้ว

ยายขายมอเตอร์ไซค์ หลานสาว 1 พัน คนรับซื้อใจดี คืนรถแล้ว

คุณยาย วัย 91 ขายมอเตอร์ไซค์หลานสาว 1000 บาท หลานสาวทราบเรื่องแทบทรุด ล่าสุด คนรับซื้อส่งคืนจักรยานยนต์คันโปรดแล้ว กรณี หลานสาวคุณยาย วัย 91 ปี ย่านสำโรงเหนือ ออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากพี่ๆ นักข่าว คุณยายซึ่งมีอาการหลงลืมเรียกคนรับซื้อของเก่า มารับซื้อจักรยานยนต์คันเก่งของหลานไปในราคา 1,000 บาท

หลานสาวที่เป็นเจ้าของรถ กลับถึงบ้าน ทราบข่าวลมแทบจับวอนคนรับซื้อเอากลับมาคืน 

โดย พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ กล่าว่า หลังทราบเรื่องทางเจ้าหน้าที่ ไล่กล้องวงจรปิด จนทราบหมายเลขทะเบียน และทำการติดต่อประสานกระทั่งหลานสาวของวคุณยายได้รถคู่ใจกลับคืนมา

โดยเมื่อเวลา 22.30 น. ของวันที่ 9 ส.ค.65 สองสามีภรรยาที่รับซื้อของเก่าจากคุณยาย เดินทางมาพบกับทางพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ และผู้เสียหายเพื่อขอส่งมอบรถจักรยานยนต์คืนซึ่งฝั่งผู้เสียหายก็ได้คืนเงินสดที่รับมาจากสองสามีภรรยา เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท ให้คืนไป สองฝ่ายต่างพอใจและตกลงกันได้ โดยไม่เอาความแต่อย่างใด

เจ้าของรถจักรยานยนต์ นางสาวรัชดาพร หลานของคุณยาย ได้พูดคุยกับทางสองสามีภรรยา พร้อมรับคำขอโทษจากทั้งสอง โดยคืนเงินสดที่ทางสองสามีภรรยาจ่ายมาให้กับยายคืนไป พร้อม กล่าวขอบคุณที่เอารถมาคืน และต้องขอบคุณสื่อที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงจนได้รถมอไซค์ฯ กลับสู่อ้อมกอดในครั้งนี้

แม่ของ นักศึกษา ม.เชียงใหม่กระโดดน้ำ ยืนยันว่าเป็นร่างของลูกจริงหลังพบศพในลำพูน ชันสูตรเบื้องต้นไม่พบร่องรอยบาดแผล จากกรณีที่ นักศึกษา ม.เชียงใหม่กระโดดน้ำ บริเวณสะพานจันทร์สม ใกล้ตลาดวโรรส อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทิ้งข้อความถึงพ่อคล้ายกับข้อความกับจดหมายลาตาย และขอโทษที่ไม่สามารถทำตามสัญญากับพ่อไว้ดังที่เคยมีรายงานก่อนหน้านี้

ล่าสุด พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ได้รับแจ้งว่าพบร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่ บริเวณด้านหลังลานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย หมู่ 6 ต.ริมปิง อ.เมืองลำพูน จึงประสานให้หน่วยกู้ภัยร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อถึงจุดเกิดเหตุพบศพในสภาพคว่ำหน้า สภาพศพเริ่มอืด จึงให้ทางกู้ภัยและนักประดาน้ำร่วมกันนำร่างขึ้นมา ชันสูตรเบื้องต้นไม่พบบาดแผลตามร่างกายใดๆ เสื้อที่สวมใส่บริเวณหน้าอกซ้ายพบมีภาษาอังกฤษว่า cm ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นร่างของนักศึกษาเชียงใหม่กระโดดน้ำ

ทางกู้ภัยจึงส่งภาพศพให้ทางแม่ของนักศึกษาดู และได้รับการยืนยันว่าเป็นร่างของนักศึกษา ม.เชียงใหม่กระโดดน้ำจริง ทางกู้ภัยเตรียมส่งร่างให้กับทางนิติเวช เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์อีกครั้ง และมอบศพให้ทางญาติอีกที

กู้ภัย เล่าไทม์ไลน์เคสทิ้งศพในซากรถ 12 ชม. นาทีรับแจ้ง จนศพโผล่ที่เก็บรถของกลาง

ไทม์ไลน์เคสศพลุงถูกทิ้งในรถ 12 ชั่วโมง กู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ศรีราชา เล่านาทีรับแจ้ง ยันตอนถึงที่เกิดเหตุแล้ว กู้ภัยมอเตอร์เวย์แจ้งไม่เจอศพ ก่อนเวลาผ่าน พบร่างที่เก็บรถของกลาง กรณี ตำรวจทางหลวง ปล่อยศพลุงวัย 68 ปี ทิ้งไว้ในซากรถยนต์ นาน 12 ชั่วโมง หลังประสบอุบัติเหตุ เสียหลักพลิกคว่ำลงร่องกลางถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ก่อนมีการลากซากรถมาเก็บยังที่เก็บของกลาง โดยมีศพผู้เสียชีวิตอยู่ภายใน จนสุดท้ายต้องแจ้งกู้ภัยเก็บศพเงียบ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์หนัก

ล่าสุด วันนี้ (10 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.ท.ชนินทร์ ธรรมศานติบูรณ์ สารวัตรสอบสวน สภ ศรีราชา ได้ทำหนังสือส่งร่าง นายภัทรชัย คุณลุงวัย 68 ปี ที่เสียชีวิตในรถ จากโรงพยาบาลแหลมฉบัง นำส่งสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อทำการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอึกครั้งเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

ขณะที่ เพจเครือสหพัฒน์-แหลมฉบัง ระบุว่า 12 ชั่วโมง ศพติดอยู่ในรถ มีอุบัติเหตุรถเก่งชนราวกั้นบนถนน มอเตอร์เวย์ ขาเข้าพัทยาช่วง กม.105 หน่วยกู้ภัยของมอเตอร์เวย์ได้เข้าไปตรวจสอบดังภาพที่เห็นแล้วแจ้งกลับว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ด้าน นายเจษฎา เจ้าหน้าที่กู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ศรีราชา เปิดเผยว่า หลังรัศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ศรีราชาได้รับแจ้งเหตุแล้ว ก็รุดไปยังที่เกิดเหตุทันที โดยจอดรถอยู่บริเวณถนนคู่ขนานกิโลเมตรที่ 105 + 300 ตรงบริเวณจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเพียวเยี่ยงไท้ศรีราชา เล่าต่อว่า เมื่อมาถึงและเตรียมปีนรั้วกั้นเข้าไปยังที่เกิดเหตุ แต่กู้ภัยมอเตอร์เวย์ได้แจ้งว่าไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงถอนกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยออกจากจุดเกิดเหตุ

จากนั้น เวลาประมาณ 19.00 น. ทราบข่าวว่าได้พบศพผู้เสียชีวิตอยู่ในรถคันที่เกิดเหตุที่สถานที่เก็บรถของกลาง ส.ทล.เขาเขียว โดยตั้งแต่เกิดเรื่องยันพบร่างผู้เสียชีวิตเวลาผ่านไปกว่า 12 ชั่วโมง

นายเจษฎา ยอมรับรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะถ้าหน่วยกู้ภัยได้เข้าไปยังที่เกิดเหตุ คาดว่าจะสามารถช่วยชีวิตผู้ได้รับบาดเจ็บรายนี้ ให้มีชีวิตรอดได้ต่อไปแน่นอน

ทั้งนี้มีรายงานว่า ญาติผู้เสียชีวิต ได้เดินทางพบพนักงานสอบสวนแล้ว โดยความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

รวมทั้ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 5 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป